บ้านร้อนอยากให้สะท้อนแดด แม้จะอยู่ใต้หลังคาแต่ปัญหา “บ้านร้อน” ยังกวนใจไม่หยุดหย่อน ปัญหานี้จะหมดไปถ้าเลือกใช้หลังคาฉนวนกันความร้อน ซึ่งปัจจุบันก็มีแบบหลังคาฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูปมาให้เลือกใช้เพิ่มความสะดวกสบายและความง่ายในการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังคากันความร้อนสำเร็จรูป หรือ “หลังคาปิงปอง” “หลังคาแซนวิช” กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าเราจะพบหลังคากันความร้อนสำเร็จรูปมากมายในท้องตลาด แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกหลังคากันความร้อนสำเร็จรูปแบบไหน เพื่อให้ตรงกับการใช้งานและงบประมาณของเรา วันนี้ผมจะแนะนำดังนี้ครับ
หลังคาแซนวิช หลังคาชนิดนี้ทำมาจากแผ่นโฟมพอลิสไตรีน หรือ โฟมขาว ผ่านกระบวนการรีดแล้วนำมาประกบเข้ากันด้วยกาวพอลิยูรีเทน ราคาจะค่อนข้างประหยัด
หลังคาชนิดนี้ทำมาจากโฟมพอลิสไตรีน ผ่านกระบวนการอัดแรงดันแล้วนำมารีดก่อนจะประกบด้วยกาวพอลิยูรีเทน ชนิดนี้จะมีความแข็งแรงกว่า ฉนวนกันความร้อน Expanded Polystyrene (EPS)
หลังคาชนิดนี้ทำมาจากการฉีดโฟมพอลิยูรีเทน หรือ โฟมเหลือง ซึ่งแบบนี้ให้ค่าฉนวนมากกว่า Expanded Polystyrene (EPS) และ Extruded Polystyrene (XPS) เหมาะกับใช้บริเวณห้องที่มีความร้อน เช่น ห้องครัว เป็นต้น
หลังคาชนิดนี้ได้ผ่านการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีต่อยอดจากโฟมพอลิยูรีเทน จึงทำให้มีคุณสมบัติคล้าย Polyurethane Foam (PU) แต่มากกว่าด้วยการป้องกันการลุกลามของไฟ ทำให้ปลอดภัย มั่นใจหากเกิดอัคคีภัยนั่นเอง
หลังคาชนิด Rockwool หรือ ฉนวนหินภูเขาไฟ มีคุณสมบัติในการทนทานต่อความร้อน ป้องกันไฟ เหมาะสำหรับห้องที่มีความร้อนสูง
หลังคาสำเร็จรูปที่ได้ติดฉนวนกันคามร้อนพีอี (PE) เรียบร้อย โดยหลังคาชนิดนี้ทำจากเม็ดพลาสติก Low Density Polythylene (LDPE) และยังเคลือบด้วยฉนวนพีอีโฟม พร้อมติด Metalized Film หนา 27 ไมครอน จึงทำให้ไม่ดูดซึมน้ำและยังไม่กักเก็บคามชื้น ด้วยความหนาที่มีถึง 25 กก./ลบ.ม. จึงทำให้สามารถสะท้อนรังสี UV จึงช่วยให้บ้านเย็น ไม่ร้อนนั่นเอง
สรุป : หลังคาเมทัลชีทพีอี (PE) สามารถทนต่ออุณหภูมิได้สูงถึง 80 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่ามีความทนทาน น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง จึงทำให้ติดตั้งง่าย รวดเร็ว สวยงาม